วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

รูปทรง (Form) หมายถึง โครงสร้างของสิ่งต่างๆ ประกอบด้วยด้าน 3 ด้าน คือ ด้านกว้าง ด้านยาว ด้านหนา เรียกว่า รูป 3 มิติรูปทรงสามารถวัดขนาดและปริมาตรได้ รูปทรงแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. รูปทรงธรรมชาติ (organic form) ได้แก่ หมายถึง รูปทรงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ได้แก่ คน สัตว์ พืช มีลักษณะ 3 มิติรูปทรงในลักษณะนี้จะให้ความมีชีวิตชีวา
2. รูปทรงเรขาคณิต (geometric form) ได้แก่ รูปทรงที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น รูปทรงสามเหลี่ยม รูปทรงสี่เหลี่ยม รูปทรงกลม ฯลฯสามารถแสดงความกว้าง ความยาว และมิติทางลึกหรือหนามีมวลและปริมาณ
3. รูปทรงอิสระ (free form) ได้แก่ รูปทรงที่เกิดขึ้นอย่างอิสระ ไม่มีโครงสร้างที่แน่นอน เช่น รูปทรงของก้อนเมฆ กระแสน้ำ หรือก้อนหิน
Form & Counter form


Letter form คือ รูปทรงของตัวอักษร
Counter form คือ สิ่งที่เกิดขึ้นจากพื้นที่สีขาวที่อยู่ด้านในของตัวอักษร

ในงานออกแบบกราฟิก หรืองานออกแบบ 2 มิติ นอกจากองค์ประกอบหลักที่เรา ได้พยายามจัดให้ลงตัวแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งซึ่งจริงๆแล้วมีอิทธิพลมากกับภาพที่เราออกแบบ แต่นักออกแบบ จำนวนไม่น้อยเลยที่มองข้ามไป สิ่งนั้นก็คือ ที่ว่าง (Space)ที่ว่างที่อยู่รอบๆองค์ประกอบในภาพจะสอดประสานกับองค์ประกอบที่อยู่ภายในภาพ ทำให้ภาพเกิดความเป็นภาพ และความเป็นพื้นภาพซึ่งมีอิทธิพลต่อการสื่อความหมายของงานออกแบบได้
1. ภาพและพื้นภาพ (Figure & Background) ในการมองภาพ สมองของเราจะสั่งการให้รับรู้ความสำคัญขององค์ประกอบในภาพต่างๆต่างกันไป เรามองเห็นสิ่งที่เป็นองค์ประกอบหลักที่ถูกเน้นที่เด่นกว่าเป็นตัวงาน เป็นตัวภาพ (Figure) ส่วนที่ว่างรอบๆ ภาพ หรือองค์ประกอบที่เหลือนั้นจะกลายเป็นพื้นภาพ (Background) ไปโดยอัตโนมัติ อาจกล่าวได้ว่า ภาพเป็นตัวหลัก พื้นภาพเป็นตัวรอง
2. พื้นที่ของภาพและพื้นภาพ (Positive & Negative Space) งานออกแบบกราฟิกที่ดี ต้องมีความสัมพันธ์ของภาพและพื้นภาพที่ดีพื้นภาพในงานเป็นเสมือนพระรองที่คอยส่งเสริมตัวภาพหรือพระเอกให้ดูโดดเด่นมากกว่า ซึ่งการส่งเสริมกันนั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปร่างของพื้นที่ว่างโดยรอบๆ ภาพ


Negative Spaceขวา Positive Spaceซ้าย

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า งานกราฟิกจะสวยได้ นอกจากองค์ประกอบข้างในงานแล้ว รูปร่างขนาดพื้นที่ว่างรอบรูปก็สามารถเป็นตัวบ่งชี้ความสวยงามลงตัวของงานได้

ไม่มีความคิดเห็น: